บ้านไหนเป็นแบบนี้บ้าง? พอลูกอยู่นิ่งๆ กับหน้าจอแล้วคิดว่าเด็กมีสมาธิดี ดีกว่าลูกวิ่งซนให้ปวดหัว ขอแค่ลูกกินเก่งๆ ตัวจ้ำม่ำ ก็ดูแข็งแรงดี กว่ากินน้อยผอมโซอีก ลูกจะนอนแล้วตื่นเวลาไหนก็ได้หมด เอาที่ลูกได้นอนเยอะๆ ก็พอ
ถึงเวลาแล้วที่ “พ่อแม่” ต้องทวงคืน “ความสมดุล” ในชีวิต ให้กับเด็กร่วมกัน ด้วยการมาเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตของลูกให้เป็น “เด็กสมดุล” ด้วยการร่วมท้าทายให้พ่อแม่ หา “กลวิธีต่างๆ” มาชักชวนให้ลูกปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามหลักสามเหลี่ยมสมดุล “วิ่งเล่น กินดี นอนพอ” ผ่านคลิปวิดีโอที่ใช้ชื่อว่า ‘แกล้งลูก’ ที่ต้องการสื่อสารจุดประกายให้ผู้ปกครองลุกขึ้นมาชวนลูกวิ่งเล่น เตรียมอาหารบนโต๊ะกินข้าวให้ถูกหลักโภชนาการ และรู้เวลานอนหลับพักผ่อนที่ถูกต้องเพื่อที่จะทำให้เด็กเติบโตสมวัยและสมดุล
การกินเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการเจริญเติบโตของเด็กๆ แต่ “การกินที่ดี” นั้นต้องไม่ใช่แค่ “กินอะไรก็ได้” เพราะถ้าอยากให้เด็กเจริญเติบโตอย่างดี มีพัฒนาการสมวัย ร่างกายแข็งแรง ต้องเป็นการกินที่ได้สารอาหารครบถ้วน ในปริมาณและสัดส่วนอาหารที่เหมาะสมด้วย
เด็กๆ กับการวิ่งเล่นออกกำลังกายนั้นเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้เด็กๆ ได้ออกไปวิ่งเล่นน้อยลง เด็กบางคนต้องเรียนเยอะจนไม่มีเวลาว่าง บางคนเสียเวลาไปกับการเดินทางเพราะรถติดหนัก หรือบางคนก็ไม่สนใจการออกไปวิ่งเล่นเพราะสนุกกับโทรศัพท์มือถือมากกว่า และโดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ต้องเว้นระยะห่าง งดกิจกรรมนอกบ้าน และสวมใส่หน้ากากอนามัย ก็ยิ่งทำให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่นออกกำลังกายลดลง ในขณะที่มีพฤติกรรมเนือยนิ่งเพิ่มสูงขึ้น
การนอน มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการเจริญเติบโตของเด็ก การนอนไม่ได้เป็นแค่การพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายหายเหนื่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาทองของการหลั่งฮอร์โมนสำคัญที่มีผลต่อความแข็งแรงและพัฒนาการของเด็กๆ ด้วย ชั่วโมงการนอนที่เหมาะสมต่อร่างกายนั้นแตกต่างกันไปตามช่วงวัย สำหรับเด็กวัยเรียนอายุ 6-12 ปี ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้ 9-12 ชั่วโมงต่อวัน