การกินเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการเจริญเติบโตของเด็กๆ แต่ “การกินที่ดี” นั้นต้องไม่ใช่แค่ “กินอะไรก็ได้” เพราะถ้าอยากให้เด็กเจริญเติบโตอย่างดี มีพัฒนาการสมวัย ร่างกายแข็งแรง ต้องเป็นการกินที่ได้สารอาหารครบถ้วน ในปริมาณและสัดส่วนอาหารที่เหมาะสมด้วย
เด็กๆ กับการวิ่งเล่นออกกำลังกายนั้นเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้เด็กๆ ได้ออกไปวิ่งเล่นน้อยลง เด็กบางคนต้องเรียนเยอะจนไม่มีเวลาว่าง บางคนเสียเวลาไปกับการเดินทางเพราะรถติดหนัก หรือบางคนก็ไม่สนใจการออกไปวิ่งเล่นเพราะสนุกกับโทรศัพท์มือถือมากกว่า และโดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ต้องเว้นระยะห่าง งดกิจกรรมนอกบ้าน และสวมใส่หน้ากากอนามัย ก็ยิ่งทำให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่นออกกำลังกายลดลง ในขณะที่มีพฤติกรรมเนือยนิ่งเพิ่มสูงขึ้น
การนอน มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการเจริญเติบโตของเด็ก การนอนไม่ได้เป็นแค่การพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายหายเหนื่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาทองของการหลั่งฮอร์โมนสำคัญที่มีผลต่อความแข็งแรงและพัฒนาการของเด็กๆ ด้วย ชั่วโมงการนอนที่เหมาะสมต่อร่างกายนั้นแตกต่างกันไปตามช่วงวัย สำหรับเด็กวัยเรียนอายุ 6-12 ปี ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้ 9-12 ชั่วโมงต่อวัน
พ่อแม่หลายคนสงสัยว่าทำไมลูก “กินเยอะ” “นอนเยอะ” “เล่นเก่ง” แต่กลับไม่ค่อยแข็งแรง มีภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน หรือน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ หรือมีพัฒนาการทางร่างกายไม่สมกับวัย นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า…
พ่อแม่จำนวนไม่น้อยปล่อยให้ลูกมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล โดยเฉพาะพฤติกรรมการกิน การนอน และการออกกำลังกาย หลายคนยอมให้ลูกไม่กินผักผลไม้เพราะลูกไม่ชอบ ยอมให้กินขนมกรุบกรอบ น้ำหวานน้ำอัดลมเป็นประจำ บางคนปล่อยให้ลูกอยู่กับหน้าจอจนขาดการออกกำลังกาย หรือยอมให้ลูกเล่นเกมจนนอนดึกแทบทุกวัน พฤติกรรมขาดๆ เกินๆ เหล่านี้อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าปล่อยไว้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมายทั้งในระยะสั้นระยะยาว โดยเฉพาะโรคอ้วนในเด็กที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน และเป็นอันตรายมากกว่าที่คิด