พูดความจริงกับลูกเสมอ
เมื่อลูกมีข้อสงสัย คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายและให้เหตุผลตามความจริงกับลูก โดยพิจารณาจากช่วงอายุของลูกว่าสามารถเข้าใจหรือเรียนรู้อะไรได้แค่ไหน แล้วปรับการอธิบายให้เหมาะสมกับความสามารถในการเรียนรู้ของลูกแทนการตอบหรืออธิบายด้วยคำโกหก เพราะเมื่อลูกโตพอที่จะรู้ความจริงด้วยตัวเองแล้วจะรู้สึกสูญเสียความเชื่อใจที่มีต่อคุณพ่อคุณแม่ลงได้ รวมถึงไม่สอนให้ลูกโกหกแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะจะทำให้ความเชื่อใจในตัวคุณพ่อคุณแม่ลดลง และทำให้ติดนิสัยเอาพฤติกรรมโกหกไปใช้ต่ออีกด้วย
พ่อแม่ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับลูก
ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีการสัญญาบางอย่างกับลูก ไม่ว่าจะเป็นสัญญาที่พูดเพื่อการต่อรอง เช่น ถ้าลูกไม่งอแงตอนไปโรงเรียน เลิกเรียนแล้วจะพาไปกินไอศกรีม หรือการใช้สัญญาเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกทำอะไรบางอย่าง เมื่อถึงเวลาหรือลูกทำได้ตามที่ตกลงกันแล้ว คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลืมสัญญาที่ให้ไว้กับลูก เพราะนอกจากจะทำให้ลูกผิดหวังแล้ว การผิดสัญญายังลดความน่าเชื่อถือในตัวคุณพ่อคุณแม่ลงด้วย
รับฟังลูกอย่างตั้งใจ
วัยเด็กเป็นวัยที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น และตื่นเต้นเมื่อได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องปกติที่ลูกมักจะมีเรื่องราวมากมายมาเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง แม้ว่าอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ การรับฟังลูกอย่างตั้งใจ ใส่ใจ ไม่ขัด หรือชิงตำหนิลูกก่อน จะทำให้ลูกรู้สึกสนิทใจและเพิ่มความไว้วางใจในตัวคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก และเมื่อลูกเจอปัญหาต่อไปในอนาคต เขาก็จะไม่ลังเลที่จะปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อคุณแม่เป็นอันดับแรก
ไม่เพิกเฉย เมื่อลูกขอความช่วยเหลือ
เมื่อลูกมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ คุณพ่อคุณแม่ควรตอบสนอง แนะนำ หรือช่วยหาวิธีแก้ไข ไม่เพิกเฉยหรือปล่อยให้ลูกรู้สึกว่าต้องเผชิญหน้ากับเรื่องยากตามลำพัง การอยู่ข้างๆ และแสดงออกว่าพ่อแม่พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเมื่อลูกต้องการ จะทำให้ลูกรู้สึกมั่นคงและมีความเชื่อใจในตัวคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น ส่งผลให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแน่นแฟ้นขึ้นอย่างมาก